หุ้นคุณภาพดี มีประโยชน์อย่างไร
เลือกลงทุนเฉพาะหุ้นคุณภาพดีเท่านั้น
หุ้นคุณภาพดี สามารถสร้างผลตอบแทนที่ชนะตลาดได้ทั้งในระยะสั้นและยาว
หุ้นเน่า ยิ่งถือนานยิ่งขาดทุน
หุ้นคุณภาพดี หากแม้อยู่ในสภาวะตลาดจะแย่ หุ้นตกทั้งตลาด
แต่หุ้นดีจะตกน้อยกว่าตัวอื่น และจะกลับขึ้นไปบวกได้ในเวลาไม่นาน
หุ้นเน่า สร้างความเสียหายได้ในทุกสภาวะตลาด ติดดอยสูง
และอาจไม่กลับขึ้นมาจุดเดิมอีกเลย
หุ้นคุณภาพดี มักจะมีปันผลดี
หุ้นเน่า มักจะไม่มีปันผล หรือปันผลไม่ดี ไม่สม่ำเสมอ
หุ้นคุณภาพดี สามารถเลือกลงทุนได้หลายแนวทาง ทั้งวีไอและเทคนิค
หุ้นเน่า ไม่สามารถเลือกลงทุนได้หลายแนวทาง และจะทำให้ขาดทุนทุกแนวทาง
หุ้นคุณภาพดี สามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนมากได้
หุ้นเน่า ไม่สามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนมากได้ ยิ่งลงทุนมากยิ่งขาดทุนมาก
หุ้นคุณภาพดี บริหารจัดการพอร์ตได้ง่าย
หุ้นเน่า บริหารจัดการพอร์ตได้ยาก แก้ไขยาก
"อย่าปล่อยให้หุ้นเน่า เป็นมะเร็งร้ายในพอร์ตของคุณ"
บริหารเงินลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง
หากคุณได้ทำการเลือกหุ้นที่สนใจมาจำนวนหนึ่งแล้ว
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ
"คุณจะใช้เงินลงทุนในหุ้นแต่ละตัวมากน้อยแค่ไหน?"
แน่นอน!!! หุ้นแต่ละตัวที่เลือกมา ย่อมมีคุณภาพดีไม่เท่ากัน
สิ่งที่ถูกต้องก็คือ ควรลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่สุด ด้วยสัดส่วนจำนวนเงินมากสุด
และลงทุนในหุ้นคุณภาพไม่ดี ด้วยจำนวนเงินน้อยที่สุด(หรือไม่ควรลงทุนเลย)
หากนักลงทุนทำตรงกันข้าม วางสัดส่วนเงินลงทุนผิด
จะทำให้ประสิทธิภาพของพอร์ตลดลง หรือผลตอบแทนเติบโตได้ไม่เต็มที่
ยิ่งร้ายไปกว่านั้นหากมีการเลือกหุ้นเน่า(แบบมั่วๆ)ปะปนมาในพอร์ตเพียงแค่ 1 ตัว
และลงทุนในหุ้นเน่าด้วยสัดส่วนเงินลงทุนจำนวนมาก
ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายต่อพอร์ตรวม
แม้ว่าหุ้นตัวอื่นๆในพอร์ตจะเป็นหุ้นคุณภาพดีและบวกอยู่ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เราจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินลงทุนเป็นอย่างมาก
และได้เขียนหนังสือ "18 สูตรหุ้นนักลงทุนต้องมี" ขึ้นมาให้ทุกท่านได้ศึกษา